น้ำท่วมรถเคลมประกันได้ไหม?

• แชร์ Facebook
• แชร์ผ่าน Line

ช่วงหน้าฝนแบบนี้ ฝนตกหนักจนน้ำท่วมกลายเป็นปัญหาที่หลายคนต้องเผชิญ โดยเฉพาะเจ้าของรถยนต์ที่อาจสงสัยว่า น้ำท่วมรถเคลมประกันได้ไหม แล้วประกันชั้นไหนบ้างที่ให้ความคุ้มครอง? มาดูกันว่าประกันภัยรถยนต์สามารถช่วยบรรเทาความเสียหายในสถานการณ์นี้ได้อย่างไร

ประกันภัยรถยนต์ชั้นไหนคุ้มครองน้ำท่วมบ้าง?

• ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 : ความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด ดูแลคุณและรถไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุทั้งชนแบบมีคู่กรณีหรือไม่มีคู่กรณี คุ้มครองรถหาย แผ่นดินไหว ไฟไหม้ น้ำท่วม และภัยธรรมชาติอื่น ๆ
• ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ (สองพลัส) : คุ้มครองการชนกับคู่กรณีที่เป็นยานพาหนะทางบก รถสูญหาย ไฟไหม้ และสามารถเลือกซื้อความคุ้มครองน้ำท่วมเพิ่มได้
• ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ (สามพลัส) : คุ้มครองการชนกับคู่กรณีที่เป็นยานพาหนะทางบก แต่ไม่คุ้มครองรถหาย และไฟไหม้ สามารถเลือกซื้อความคุ้มครองน้ำท่วมเพิ่มได้
• ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 : คุ้มครองรถสูญหาย ไฟไหม้ และการชนเฉพาะรถคู่กรณี ไม่คุ้มครองน้ำท่วมรถยนต์
• ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 : คุ้มครองเฉพาะชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ไม่ครอบคลุมกรณีรถถูกขโมย ไฟไหม้ หรือภัยธรรมชาติอย่างน้ำท่วม

ดังนั้น หากคุณต้องการความคุ้มครองรถยนต์จากน้ำท่วม แนะนำให้เลือก ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 หรือศึกษาแพ็กเกจของประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ (สองพลัส) และ 3+ (สามพลัส) ให้ละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ

น้ำท่วมรถแบบไหน เคลมประกันได้?

กรณีที่สามารถเคลมประกันภัยรถยนต์เนื่องจากน้ำท่วมรถได้

ความเสียหายน้ำท่วมรถที่สามารถเคลมประกันภัยรถยนต์ได้จากหลายสถานการณ์ที่เจ้าของรถนั้นไม่ทันตั้งตัวและไม่อาจหลีกเลี่ยง เช่น

  เกิดจากภัยธรรมชาติ เช่น จอดรถหน้าบ้านแล้วฝนตกหนักจนน้ำเข้ารถเสียหาย
  รถติดอยู่บนถนน และไม่สามารถเคลื่อนย้ายหนีได้จนน้ำเข้ารถ
  น้ำท่วมอย่างฉับพลัน โดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า

กรณีน้ำท่วมรถที่บริษัทประกันภัยอาจพิจารณาไม่รับเคลมประกัน

ความเสียหายน้ำท่วมรถที่เกิดจากเจ้าของรถประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง หรือจงใจทำให้รถตกอยู่ในสถานการณ์น้ำท่วม หากเข้าข่ายกรณีเหล่านี้บริษัทประกันภัยอาจปฏิเสธการจ่ายค่าสินไหมทดแทนได้ เช่น

  จงใจขับรถเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม แม้จะมีป้ายเตือน หรือมีประกาศเตือนล่วงหน้าแล้วก็ตาม
  สตาร์ทรถในขณะที่รถถูกน้ำท่วมไปแล้ว ส่งผลให้เครื่องยนต์เสียหาย
  ปล่อยให้รถจมน้ำโดยไม่ดำเนินการป้องกันตามสมควร

วิธีเคลมประกันน้ำท่วมรถ ต้องทำอย่างไร?

1. ถ่ายภาพรถขณะถูกน้ำท่วมให้เห็นชัดเจนทั้งตัวรถและป้ายทะเบียน จากนั้นติดต่อบริษัทประกันภัยเพื่อตรวจสอบความคุ้มครองในกรมธรรม์ประกันภัยและทำการโทรแจ้งเคลม
2. นัดหมายกับเจ้าหน้าที่ประกันภัยเพื่อตรวจสอบสภาพความเสียหาย ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการซ่อม
3. หากรถไม่สามารถขับได้ บริษัทประกันภัยจะส่งรถยกเพื่อนำรถเข้าศูนย์หรืออู่ซ่อมที่กำหนด

สรุป: น้ำท่วมรถเคลมประกันได้ไหม?

• เคลมได้ หากคุณทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 หรือประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ (สองพลัส) และ 3+ (สามพลัส) ที่มีความคุ้มครองภัยธรรมชาติ และอยู่ในสถานการณ์ เช่น น้ำท่วมกะทันหันขณะรถยนต์จอดอยู่ หรืออยู่บนถนนแล้วไม่สามารถขับรถยนต์หนีได้
• เคลมไม่ได้ หากคุณทำประกันภัยรถยนต์ที่ไม่มีความคุ้มครองภัยธรรมชาติ หรือกรณีเจ้าของรถทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 หรือประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ (สองพลัส) และ 3+ (สามพลัส) ที่มีความคุ้มครองภัยธรรมชาติ แต่จงใจขับรถลุยน้ำท่วม หรือสตาร์ทรถในขณะที่น้ำท่วมสูง

ดังนั้น หากคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อน้ำท่วมแนะนำให้เลือก ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 หรือเลือกซื้อแพ็กเกจของประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ (สองพลัส) และ 3+ (สามพลัส) ที่มีความคุ้มครองน้ำท่วม เพื่อให้มั่นใจว่ารถคุณได้รับความคุ้มครองที่เพียงพอ

หากคุณมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ต้องการตรวจสอบรายละเอียดความคุ้มครองกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ หรือต้องการซื้อประกันภัยรถยนต์ที่มีความคุ้มครองน้ำท่วมรถ สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ ศรีกรุงโบรคเกอร์ ได้ทุกสาขาทั่วประเทศ เรามีผู้เชี่ยวชาญยินดีตอบคำถามและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำประกันภัยทุกชนิด

ทุกเรื่องประกันภัย สอบถามเรา

ติดต่อโดยตรงได้ที่ สาขาศรีกรุงโบรคเกอร์ ใกล้บ้านท่าน
หรือส่งข้อความทาง Line: @srikrung
ติดต่อผ่าน Facebook: facebook.com/srikrungbroker/
โทรคุยกับ Call Center: 02 867 3899

หรือกรอกข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ
ศรีกรุงโบรคเกอร์ เราพร้อมให้บริการคุณ