การประกันภัยค้ำจุน คืออะไร? รู้จักหลักการ ความคุ้มครองและข้อยกเว้นสำคัญที่ควรรู้
30 กรกฎาคม 2025
6721
หลายคนคุ้นเคยกับประกันชีวิต ประกันสุขภาพ หรือประกันรถยนต์ แต่มีประกันอีกประเภทหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ “การประกันภัยค้ำจุน” ซึ่งเป็นประกันภัยที่คุ้มครองความเสียหายที่เราอาจก่อให้บุคคลอื่น
โดยบทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับความหมายของประกันภัยค้ำจุน ความคุ้มครองที่ครอบคลุม และข้อยกเว้นที่ควรทำความเข้าใจ ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยค้ำจุน
ความหมายตามกฎหมายของ ”ประกันภัยค้ำจุน”
การประกันภัยค้ำจุน หรือที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า การประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอก คือ รูปแบบหนึ่งของการประกันภัยที่มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองผู้เอาประกันภัย เมื่อเกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น (บุคคลที่สาม) ไม่ว่าจะเป็น ชีวิต ร่างกาย หรือ ทรัพย์สิน ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยซึ่งมีหน้าที่ต้องรับผิดตามกฎหมาย บริษัทประกันภัยจะเข้ามาชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในนามของผู้เอาประกันภัยตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญา
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 887 ซึ่งบัญญัติไว้ว่า
อันว่าประกันภัยค้ำจุนนั้น คือสัญญาประกันภัยซึ่งผู้รับประกันภัยตกลงว่าจะใช้ค่าสินไหมทดแทนในนามของผู้เอาประกันภัย เพื่อความวินาศภัยอันเกิดขึ้นแก่บุคคลอีกคนหนึ่ง และซึ่งผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบ
บุคคลผู้ต้องเสียหายชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนตามที่ตนควรจะได้นั้นจากผู้รับประกันภัยโดยตรง แต่ค่าสินไหมทดแทนเช่นว่านี้หาอาจจะคิดเกินไปกว่าจำนวนอันผู้รับประกันภัยจะพึงต้องใช้ตามสัญญานั้นได้ไม่ ในคดีระหว่างบุคคลผู้ต้องเสียหายกับผู้รับประกันภัยนั้น ท่านให้ผู้ต้องเสียหายเรียกตัวผู้เอาประกันภัยเข้ามาในคดีด้วย
อนึ่ง ผู้รับประกันภัยนั้นแม้จะได้ส่งค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยแล้ว ก็ยังหาหลุดพ้นจากความรับผิดต่อบุคคลผู้ต้องเสียหายนั้นไม่ เว้นแต่ตนจะพิสูจน์ได้ว่าสินไหมทดแทนนั้นผู้เอาประกันภัยได้ใช้ให้แก่ผู้ต้องเสียหายแล้ว
สาระสำคัญของมาตรา 887
- ประกันภัยค้ำจุน คือ สัญญาประกันภัยที่ผู้รับประกัน (บริษัทประกัน) ตกลงจะจ่ายค่าสินไหมแทนผู้เอาประกัน (ผู้ทำประกัน) เพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดแก่บุคคลที่สาม
- บุคคลผู้เสียหาย (บุคคลที่สาม) มีสิทธิเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัยได้โดยตรง ไม่ต้องชดใช้ผ่านผู้เอาประกันภัยแล้วให้ผู้เอาประกันภัยไปจ่ายให้กับผู้เสียหายอีกครั้งหนึ่ง
- อย่างไรก็ตาม จำนวนเงินที่บุคคลผู้เสียหายเรียกได้ ต้องไม่เกินวงเงินที่ตกลงกันไว้ในสัญญา
- บริษัทประกันภัยยังคงมีหน้าที่ต้องรับผิดต่อผู้เสียหาย เว้นแต่บริษัทประกันภัยจะพิสูจน์ได้ว่าสินไหมทดแทนนั้น ได้ชดใช้ให้แก่ผู้ต้องเสียหายนั้นแล้ว
การประกันภัยค้ำจุนพบได้ในประกันภัยประเภทใดบ้าง
ในปัจจุบัน การประกันภัยค้ำจุนพบได้อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในประกันภัยรถยนต์ ซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง และยังมีประกันภัยสำหรับวิชาชีพ (เช่น นายหน้า, วิศวกร, แพทย์, ทนาย) รวมถึงประกันภัยความรับผิดจากผลิตภัณฑ์ ประกันภัยกิจการควบคุมพิเศษ (เช่น น้ำมัน, ก๊าซ, ฯลฯ) และนอกจากนี้ ภาครัฐยังได้มีการส่งเสริมการทำประกันภัยค้ำจุนอย่างกว้างขวาง ด้วยการกำหนดให้บางกิจการต้องทำประกันภัยประเภทนี้เป็นภาคบังคับ เช่น หอพัก อาคารสาธารณะ รถโดยสารสาธารณะ เป็นต้น
ข้อยกเว้นความรับผิดที่ควรรู้ในการประกันภัยค้ำจุน
แม้ว่าการประกันภัยค้ำจุนจะครอบคลุมความเสียหายหลายประเภท แต่ก็มีข้อยกเว้นที่บริษัทประกันภัยสามารถปฏิเสธการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนได้ เช่น
กรณีที่บริษัทประกันภัยมีสิทธิ “เรียกคืน” ค่าสินไหมทดแทนจากผู้เอาประกันภัย
ในบางกรณี แม้ว่าบริษัทประกันภัยจะได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกไปแล้ว แต่ถ้าความเสียหายนั้นไม่อยู่ในขอบเขตความคุ้มครองหรือข้อยกเว้น บริษัทมีสิทธิเรียกเงินคืนจากผู้เอาประกันภัย โดยมีหลักการสรุปได้ง่าย ๆ ดังนี้
- บริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนไปก่อน
- ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่อยู่ในความรับผิดตามกฎหมายของผู้เอาประกันภัย
- บริษัทมีสิทธิ์เรียกเงินคืนจากผู้เอาประกันภัย
- หากเข้าเงื่อนไขตามกฎหมายที่บริษัทมีสิทธิเรียกเงินคืนจากผู้เอาประกันภัย ผู้เอาประกันภัยต้องคืนเงินภายใน 7 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือเรียกร้อง
ตัวอย่างสถานการณ์ที่บริษัทมีสิทธิเรียกคืน
แม้ว่าบริษัทประกันภัยจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับบุคคลภายนอกไปแล้ว แต่ในบางกรณี บริษัทประกันภัยก็ยังมีสิทธิ์เรียกเงินคืนจากผู้เอาประกันภัยได้ หากตรวจสอบพบว่าความเสียหายนั้นไม่อยู่ในขอบเขตของความคุ้มครอง หรือเข้าเงื่อนไขข้อยกเว้นของกรมธรรม์ ตามตัวอย่างในตารางนี้
ข้อดีของการทำประกันภัยค้ำจุน
การประกันภัยค้ำจุนมีข้อดีหลายข้อ ได้แก่
- ลดภาระทางการเงิน เมื่อเกิดความเสียหาย บริษัทประกันภัยจะรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมแทนผู้เอาประกันภัย ทำให้ไม่ต้องแบกรับภาระทางการเงินจำนวนมากด้วยตนเอง ทำให้ช่วยลดความเสี่ยงทางการเงิน
- เสริมความมั่นใจในการดำเนินกิจการ ช่วยให้ผู้ประกอบการหรือเจ้าของทรัพย์สินสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นใจ ลดความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
- สร้างภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือ สำหรับกิจการที่มีลูกค้าหรือประชาชนเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก การมีประกันภัยค้ำจุนช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือให้แก่คู่ค้าและลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อควรพิจารณาของการทำประกันภัยค้ำจุน
- มีข้อยกเว้นหลายกรณี เช่น จงใจหรือเจตนาทำให้เกิดความเสียหายหรือไม่ปฎิบัติตามข้อตกลงในสัญญาประกันภัย
- หากฝ่าฝืนเงื่อนไขในสัญญา บริษัทประกันภัยอาจปฏิเสธความคุ้มครองหรือเรียกเงินคืนได้
สรุป
การประกันภัยค้ำจุน มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้เอาประกันภัย โดยช่วยลดความเสี่ยงทางการเงิน และเสริมภาพลักษณ์ด้านความน่าเชื่อถือ แต่ขณะเดียวกัน ผู้เอาประกันภัยก็ควรปฏิบัติตามข้อตกลงและเงื่อนไขของกรมธรรม์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองอย่างเต็มที่ และเพื่อหลีกเลี่ยงการที่จะทำให้บริษัทประกันภัยมีโอกาสที่จะเรียกเงินค่าสินไหมดทดแทนคืน
หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับการประกันภัยค้ำจุน หรือความรู้ต่าง ๆ เรื่องประกันภัย หรือต้องการเข้ารับการอบรมเพื่อเสริมทักษะ สามารถเข้ามาพูดคุยกับเราได้ที่ “ศรีกรุงโบรคเกอร์ภาคตะวันออก” หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจาก ศรีกรุงโบรคเกอร์ ได้ทุกสาขาทั่วประเทศ เรามีผู้เชี่ยวชาญยินดีตอบคำถามและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการประกันภัยทุกชนิด
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
1. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์, มาตรา 887
2. คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, บทที่ 11 ประกันภัยค้ำจุน[ออนไลน์], 22 กรกฎาคม 2568. แหล่งที่มา
บทความโดย คุณวรุฒ อินทร์แปลง
ผู้จัดการสาขาระยอง
บริษัท ศรีกรุงโบรคเกอร์ จำกัด
ทุกเรื่องประกันภัย สอบถามเรา
ติดต่อโดยตรงได้ที่ สาขาศรีกรุงโบรคเกอร์ ใกล้บ้านท่าน
หรือส่งข้อความทาง Line: @srikrung
ติดต่อผ่าน Facebook: facebook.com/srikrungbroker/
โทรคุยกับ Call Center: 02 867 3899
- ข้อดีของการทำประกันภัยค้ำจุน
- ข้อยกเว้นความรับผิดที่ควรรู้ในการประกันภัยค้ำจุน
- ประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอก
- ประกันภัยค้ำจุน
- ประกันภัยค้ำจุนพบได้ในประกันภัยประเภทใดบ้าง