คู่มือทำประกันภัยรถเก๋ง ที่นายหน้าประกันภัยต้องรู้
24 กรกฎาคม 2025
6685
นายหน้าประกันภัยก่อนการแจ้งงานทำประกันภัยรถเก๋ง สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจข้อมูลพื้นฐานให้ชัดเจน ทั้งเรื่องความหมายของคำว่า “รถเก๋ง” ตามมุมมองของบริษัทประกันภัย และรหัสรถยนต์ที่ใช้จำแนกประเภทรถยนต์ บทความนี้จะช่วยให้เข้าใจทุกอย่างเกี่ยวกับประกันภัยรถเก๋งอย่างครบถ้วน เพื่อเสริมทักษะความรู้ก่อนให้บริการลูกค้าในการเลือกทำประกันภัยรถยนต์ได้ตรงกับประเภทรถยนต์จริง
รถเก๋ง ในความหมายของการทำประกันภัยรถยนต์ คืออะไร ?
รถเก๋ง ในความหมายของการทำประกันภัยรถยนต์ หมายถึง รถยนต์ที่มีลักษณะเป็นตัวถังปิด (Sedan) โดยทั่วไปมักจะมี 4 ประตู มีที่นั่งสำหรับผู้โดยสาร และส่วนใหญ่มีขนาดไม่ใหญ่เกินไป รถเก๋งในความหมายของการทำประกันภัยรถยนต์จะถูกจัดอยู่ในประเภท “รถยนต์นั่งส่วนบุคคล” หรือ “รถยนต์นั่งทั่วไป” ซึ่งจะถูกกำหนดอัตราค่าเบี้ยประกันตามประเภทของรถยนต์ลักษณะนี้
การทำ ประกันภัยรถยนต์สำหรับรถเก๋ง เป็นการคุ้มครองความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับตัวรถของผู้เอาประกันภัย รวมถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับบุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของบุคคลภายนอกจากการขับขี่รถเก๋ง โดยสามารถเลือกประกันได้หลายประเภทตามความต้องการและงบประมาณ
ในการแจ้งงานประกันภัยรถยนต์ รถเก๋งจะถูกระบุด้วย รหัสรถยนต์ ตามมาตรฐานของบริษัทประกันภัย ตัวเลขรหัสรถยนต์นี้สำคัญมาก เพราะจะถูกใช้ในการจำแนกประเภทของยานพาหนะที่เอาประกันภัย และโดยทั่วไป รถเก๋งจะอยู่ภายใต้รหัสต่อไปนี้
รหัสรถยนต์ในการแจ้งงานประกันภัยสำหรับรถเก๋ง
รหัสการแจ้งงานสำหรับรถเก๋ง คือ ตัวเลขสามหลักที่บริษัทประกันภัยใช้เพื่อระบุประเภทและการใช้งานของรถยนต์ รหัสเหล่านี้มีความสำคัญในการระบุลักษณะการใช้งานของยานพาหนะ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการพิจารณาขอบเขตการกำหนดความคุ้มครองและอัตราเบี้ยประกันภัย
โครงสร้างรหัสรถยนต์ในการแจ้งงานประเภทรถเก๋ง
เพื่อทำความเข้าใจการจำแนกประเภทรถเก๋งสำหรับการประกันภัยได้อย่างถูกต้อง สิ่งสำคัญคือการศึกษา โครงสร้างของรหัสรถยนต์ในการแจ้งงาน ที่บริษัทประกันภัยใช้ ดังนี้
การอ่านลักษณะการใช้งานของรถเก๋ง
ในการอ่านลักษณะการใช้งานของรถเก๋ง จะประกอบด้วยตัวเลขสามหลัก โดยมีความหมายดังนี้
- ตัวเลขหลักแรก (สีเขียว) หมายถึง ประเภทรถ
- ตัวเลขหลักที่สองและสาม (สีส้ม) หมายถึง ลักษณะการใช้รถยนต์
รหัส 1 – รถเก๋ง
สำหรับรถเก๋ง รหัสรถยนต์ในการแจ้งงานจะแบ่งเป็นกลุ่มหลัก ๆ ดังนี้
- 10 รหัส 110 หมายถึง รถใช้ส่วนบุคคล
- 20 รหัส 120 หมายถึง รถใช้เพื่อการพาณิชย์พิเศษ (เช่น รถเช่าหรือรถที่ใช้ในกิจการเฉพาะ)
รหัสดังกล่าวจะช่วยให้เข้าใจได้ชัดเจนและสะดวกรวดเร็วขึ้นในการระบุประเภทและลักษณะการใช้งานรถเก๋งสำหรับการแจ้งงานประกันภัยรถยนต์
รหัสในการแจ้งงานทั่วไปสำหรับรถเก๋ง
1. รหัส 110 รถยนต์นั่งส่วนบุคคล (ใช้ส่วนตัว ไม่ใช้รับจ้างหรือให้เช่า) โดยรถที่สามารถจด 110 ได้ คือ รถเก๋ง รถกระบะ 4 ประตู และรถตู้ไม่เกิน 7 ที่นั่ง
ตัวอย่างเล่มทะเบียนรถยนต์ รถเก๋ง ในรายการจดทะเบียนจะระบุเป็น รย.1 รถเก๋ง
ตัวอย่างเล่มทะเบียนรถยนต์ รถกระบะ 4 ประตู ในรายการจดทะเบียนจะระบุเป็น รย.1 รถเก๋ง
ตัวอย่างเล่มทะเบียนรถยนต์ รถตู้ไม่เกิน 7 ที่นั่ง ในรายการจดทะเบียนจะระบุเป็น รย.1 รถเก๋ง
ตัวอย่างเล่มทะเบียนรถยนต์ รหัส 120 รถยนต์นั่งเพื่อการพาณิชย์ (ใช้รับจ้าง แต่ไม่ประจำทาง)
ใช้งานในบริษัท หรือกิจการ ในรายการจดทะเบียนจะระบุเป็น รย.1 รถเก๋ง
ตัวอย่างหน้าตารางกรมธรรม์รถเก๋ง
เพื่อให้นายหน้าประกันภัยเข้าใจการใช้รหัสรถยนต์มากขึ้น สามารถศึกษาได้จากหน้าตัวอย่างกรมธรรม์ ซึ่งจะเห็นได้ว่ารหัสรถยนต์ที่กล่าวมาข้างต้นนั้นปรากฏอยู่ในตำแหน่งใดของกรมธรรม์ และมีรูปแบบการแสดงผลอย่างไร
รหัสรถยนต์ประเภทรถเก๋งที่เป็นรถไฟฟ้า
สำหรับกรณีรถไฟฟ้าประเภทรถเก๋ง หน้าตารางกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์จะระบุรหัส ดังนี้
- รหัส 110 ระบุรหัสเป็น E11
- รหัส 120 ระบุรหัสเป็น E12
ตัวอย่างเล่มทะเบียนรถยนต์ รถเก๋งที่เป็นรถไฟฟ้า ในรายการจดทะเบียนจะระบุเป็น รย.1 รถเก๋ง และในหน้าตารางกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์จะระบุเป็น รหัส E11
ตัวอย่างเล่มทะเบียนรถยนต์ รถเก๋งที่เป็นรถไฟฟ้า รถยนต์นั่งเพื่อการพาณิชย์ (ใช้รับจ้าง แต่ไม่ประจำทาง) ใช้งานในบริษัท หรือกิจการ ในรายการจดทะเบียนจะระบุเป็น รย.1 รถเก๋ง และในหน้าตารางกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์จะระบุเป็น รหัส E12
ข้อแนะนำตรวจสอบกรมธรรม์หากได้รับกรมธรรม์แล้ว
เมื่อลูกค้าของเราได้รับกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ สิ่งสำคัญที่ต้องแนะนำให้ลูกค้าทำก่อนเลยคือ การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในกรมธรรม์ทันที เพราะหากมีข้อผิดพลาดอาจส่งผลต่อสิทธิ์การเคลมหรือความคุ้มครองในอนาคตได้ และเพื่อความมั่นใจว่ากรมธรรม์ของลูกค้าของเราครอบคลุมและตรงตามที่ตกลงไว้ เราขอแนะนำ 5 ส่วนสำคัญที่คุณควรแนะนำให้ลูกค้าตรวจสอบในกรมธรรม์ ดังต่อไปนี้
- ส่วนที่ 1 ตรวจสอบ ข้อมูลผู้เอาประกัน
- ส่วนที่ 2 ตรวจสอบวันคุ้มครอง / สถานะการซ่อม
- ส่วนที่ 3 ตรวจสอบรายละเอียดรถ ยี่ห้อ / รุ่น / ปี / เลขถัง (เลขถังเป็นสาระสำคัญที่ต้องตรวจสอบ)
- ส่วนที่ 4 ตรวจสอบความคุ้มครองที่บริษัทประกันออกมาให้
- ส่วนที่ 5 ตรวจสอบเบี้ยประกันภัย
สรุป
รถเก๋งเป็นรถยนต์ประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ด้วยความลงตัวของความสะดวกสบายและความคล่องตัว ทำให้รถเก๋งเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ส่วนตัว และเบี้ยประกันภัยก็มีราคาที่สามารถมีกำลังซื้อได้
นอกจากรายละเอียดรหัสรถยนต์ประเภทรถเก๋งที่ต้องรู้แล้ว สามารถศึกษาข้อมูลการแบ่งกลุ่มรถยนต์ในการพิจารณาเบี้ยประกันภัยเพิ่มเติมได้ที่บทความ รู้จักการแบ่งกลุ่มรถยนต์ในการพิจารณาเบี้ยประกันภัย ก่อนซื้อประกัน? และถ้าไม่แน่ใจว่ารถยนต์ของลูกค้าที่เราดูแลอยู่นั้นต้องทำประกันภัยแบบไหน ให้ศรีกรุงโบรคเกอร์เป็นที่ปรึกษาช่วยพี่ ๆ นายหน้าประกันภัยทุกท่าน เราพร้อมให้คำแนะนำและเปรียบเทียบแผนประกันภัยที่ดีที่สุดสำหรับรถยนต์ทุกชนิด ติดต่อศรีกรุงโบรคเกอร์ได้ทันที ทุกสาขาทั่วประเทศ
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน). (2568). ตารางกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์
บทความโดย คุณไพรีนทร์ แสนเรือน
ผู้จัดการ ฝ่ายรับประกัน
บริษัท ศรีกรุงโบรคเกอร์ จำกัด
ทุกเรื่องประกันภัย สอบถามเรา
ติดต่อโดยตรงได้ที่ สาขาศรีกรุงโบรคเกอร์ ใกล้บ้านท่าน
หรือส่งข้อความทาง Line: @srikrung
ติดต่อผ่าน Facebook: facebook.com/srikrungbroker/
โทรคุยกับ Call Center: 02 867 3899
หรือกรอกข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ
ศรีกรุงโบรคเกอร์ เราพร้อมให้บริการคุณ
- การตรวจสอบกรมธรรม์
- คู่มือประกันรถยนต์
- นายหน้าประกันภัยต้องรู้
- บทความประกันภัย
- ประกันภัยรถเก๋ง
- ประกันรถไฟฟ้า
- รถเก๋งรหัส 110
- รถเก๋งรหัส 120
- รถไฟฟ้ารหัส E11
- รถไฟฟ้ารหัส E12
- รหัสรถยนต์
- รหัสรถเก๋ง
- รหัสรถไฟฟ้า
- วิธีแจ้งงานประกันรถยนต์
- เล่มทะเบียนรถเก๋ง