ประมาทร่วม คืออะไร? สรุปชัดเจน พร้อมตัวอย่างสถานการณ์ที่คุณอาจเจอ
4 มิถุนายน 2025
7935
ไม่ว่าเราจะเป็นคนขับรถมือใหม่ หรือขับรถมานานหลายปี อุบัติเหตุบนท้องถนนนั้นสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ และในหลายเหตุการณ์ความเสียหายที่เกิดขึ้น อาจไม่ได้มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดเต็ม ๆ แต่เกิดจากความ “ประมาทร่วม” บนท้องถนน ผู้ใช้รถจึงมีโอกาสตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ได้ หากคุณไม่มีความระมัดระวังในการขับขี่
ประมาทร่วม คืออะไร? ทำไมเราถึงเรียก “ประมาทร่วม”
“ประมาทร่วม” คือ สถานการณ์ที่เกิดอุบัติเหตุหรือความเสียหายเกิดขึ้นจากความประมาท ของบุคคลตั้งแต่ 2 ฝ่ายขึ้นไป ซึ่งแต่ละฝ่ายต่างก็มีส่วนในการก่อให้เกิดความเสียหาย และไม่สามารถพิสูจน์หรือแยกได้อย่างชัดเจนว่าฝ่ายใดประมาทมากกว่ากัน หรือในทางกฏหมายเรียกว่า “ต่างฝ่ายต่างประมาทไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน” นั่นเอง และ ทำไมถึงเรียก “ประมาทร่วม” คำนี้ถูกใช้เพื่ออธิบายกรณีที่การระบุผู้รับผิดชอบต่ออุบัติเหตุไม่สามารถชี้ชัดไปที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้เพียงลำพัง แต่เป็นผลจากการกระทำที่ประมาทของหลายฝ่ายที่ “ร่วม” กันทำให้เกิดความเสียหาย
ลักษณะของ “ประมาทร่วม” ที่คุณควรรู้
การจะระบุว่าเหตุการณ์ใดเป็น “ประมาทร่วม” หรือไม่นั้น ต้องพิจารณาจากลักษณะเฉพาะที่สำคัญ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดว่าความรับผิดชอบจะถูกแบ่งอย่างไรระหว่างคู่กรณี ดังนี้
- ความประมาทของหลายฝ่าย: ต้องมีบุคคลตั้งแต่ 2 ฝ่ายขึ้นไปที่มีส่วนในการก่อให้เกิดเหตุการณ์หรือความเสียหาย ต่อตนเองและผู้อื่น
- ความประมาทที่ไม่สามารถแยกได้: ความประมาทของแต่ละฝ่ายนั้นไม่สามารถพิสูจน์หรือไม่สามารถแยกได้อย่างชัดเจน หรือไม่สามารถระบุได้ว่าฝ่ายใดเป็นต้นเหตุหลักในการก่อให้เกิดความเสียหายดังกล่าวได้
- ความรับผิดชอบร่วมกัน: แต่ละฝ่ายต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นตามความเสียหายของความประมาทของตนเอง
ตัวอย่างสถานการณ์ “ประมาทร่วม” ที่คุณอาจเจอในชีวิตจริง
เพื่อให้เข้าใจเรื่อง “ประมาทร่วม” มากยิ่งขึ้น เรามาดูตัวอย่างสถานการณ์จริงที่อาจเกิดขึ้นได้บนท้องถนนกันว่า ความประมาทร่วมเกิดขึ้นได้อย่างไร และทำไมถึงไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าฝ่ายใดเป็นผู้ผิดเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งผู้ขับขี่ทุกคนควรตระหนักถึงความเสี่ยงเหล่านี้
กรณีที่ 1 เกิดจากความประมาทของคู่กรณีทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายแรกจะเลี้ยวขวา แต่ไม่ได้ดูรถให้ดีว่ามีรถขับขี่ตามมาหรือไม่ แต่อีกฝ่ายที่ขับตามมาก็พยายามแซง และแซงในเขตห้ามแซง โดยไม่ได้ดูให้ดีว่ารถคันหน้าได้เปิดไฟเลี้ยวขวาเพื่อจะเลี้ยวขวาหรือไม่ จนเป็นเหตุให้ชนกัน กรณีนี้จึงเกิดจากความประมาทของทั้งสองฝ่าย หรือต่างฝ่ายต่างประมาทไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน
กรณีที่ 2 เป็นกรณีที่ชนกันบริเวณสีแยกที่ไม่มีไฟแดง และทั้งสองฝ่ายหรือพนักงานสอบสวนก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าความประมาทดังกล่าวเกิดจากฝ่ายใดหรือฝ่ายใดประมาทมากกว่ากัน จึงถือว่าเป็นกรณีต่างฝ่ายต่างประมาท
แต่อย่างไรก็ดี ทั้ง 2 กรณีหากมีผู้โดยสารหรือมีคนเดินถนน ได้รับบาดเจ็บ พ.ร.บ.ของรถทั้ง 2 คัน ต้องร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามความเสียหายที่แท้จริง หรือในกรณีเสียชีวิต พ.ร.บ. ของรถทั้ง 2 คันจะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เสียชีวิต ทั้ง 2 ฉบับ ๆ ละ 500,000 บาท
ผลกระทบของ “ประมาทร่วม” ต่อการเคลมประกันภัยรถยนต์
เมื่อเกิดเหตุการณ์ประมาทร่วมขึ้น สิ่งที่ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่กังวลคือ การเคลมประกันภัยจะเป็นอย่างไร และจะส่งผลกระทบต่อค่าเบี้ยประกันในอนาคตหรือไม่ มาดูรายละเอียดที่คุณควรรู้กัน
- การแบ่งความรับผิดชอบ: ความรับผิดชอบในความเสียหายของกรณีประมาทร่วมจะเป็นการรับผิดชอบความเสียหายของตนเอง
- การเคลมประกัน: การเคลมประกันนั้น ประกันภัยของแต่ละฝ่ายก็จะรับผิดชอบต่อความเสียหายของรถคันเอาประกันภัยของตนเอง หากรถคันดังกล่าวไม่มีประกันภัยก็ต้องเสียค่าซ่อมรถของตนเอง
- ผลต่อเบี้ยประกันรถยนต์ในปีถัดไป: การเกิดอุบัติเหตุในกรณี ประมาทร่วม อาจส่งผลให้ประวัติการขับขี่ของคุณไม่ดี และอาจทำให้เบี้ยประกันภัยในปีถัดไปปรับเพิ่มขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัทประกันภัย
ข้อควรทราบเกี่ยวกับ “ประมาทร่วม”
นอกจากการทำความเข้าใจเรื่องประมาทร่วมในแง่ของความหมายและตัวอย่างแล้ว ยังมีรายละเอียดสำคัญที่คุณควรทราบเพิ่มเติม
- ในทางกฎหมายอาจไม่ได้ใช้คำว่า “ประมาทร่วม” โดยตรง คำว่า “ประมาทร่วม” เป็นการใช้ของประชาชนส่วนใหญ่ เพื่อให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น
- การตัดสินว่าเป็น “ประมาทร่วม” หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเป็นคำสั่งหรือเป็นคำพิพากษาของศาล
- การมีหลักฐานที่ชัดเจน เช่น กล้องหน้ารถ หรือพยานหลักฐานอื่นๆ จะช่วยในการพิจารณาว่า คู่กรณีฝ่ายใดประมาทและต้องรับผิดชดใช้สินไหมทดแทน ต่อความเสียหายดังกล่าวที่เกิดขึ้น
- การมีประกันภัย หากว่ามีการทำประกันภัยไว้ ก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งและมีความสำคัญมาก ในการที่จะบรรเทาความเดือดร้อนที่จะต้องหาเงินมาชดใช้ต่อความเสียหายเมื่อเกิดอุบัติที่เกิดขึ้น และการทำประกันภัยนัั้นควรทำให้ครอบคลุมและเหมาะสม
สรุป
ประมาทร่วม เป็นสถานการณ์ที่ทั้งสองฝ่ายต่างมีส่วนในการก่อให้เกิดความเสียหาย การทำความเข้าใจความหมาย ลักษณะ ผลกระทบต่อการเคลมประกัน จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง การมีหลักฐานที่ชัดเจน เช่น กล้องหน้ารถ และการมีประกันภัยรถยนต์ จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและภาระค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิดได้ แต่การขับขี่ด้วยความไม่ประมาทนั้นคือสิ่งที่ดีที่สุดในการป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนน
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้เข้าใจเรื่อง “ประมาทร่วม” มากขึ้น หากคุณชื่นชอบสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับตัวอย่างเหตุการณ์อุบัติเหตุบนท้องถนนและการเคลม สามารถอ่านกันต่อได้ที่บทความ ไขข้อสงสัย! รถชนกันหลายคัน ใครผิดกันแน่? และหากคุณมีข้อสงสัยต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการปรึกษาข้อมูลประกันภัย สามารถสอบถามพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ศรีกรุงได้ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือติดต่อ “ศรีกรุงภาคอีสาน 1” เรามีผู้เชี่ยวชาญยินดีตอบคำถามและให้คำแนะนำ
บทความโดย คุณมานิตย์ บูชาบุญ
ผู้อำนวยการภาคอีสาน เขต 1
บริษัท ศรีกรุงโบรคเกอร์ จำกัด
ติดต่อ 085 487 7987
ทุกเรื่องประกันภัย สอบถามเรา
ติดต่อโดยตรงได้ที่ สาขาศรีกรุงโบรคเกอร์ ใกล้บ้านท่าน
หรือส่งข้อความทาง Line: @srikrung
ติดต่อผ่าน Facebook: facebook.com/srikrungbroker/
โทรคุยกับ Call Center: 02 867 3899
หรือกรอกข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ
ศรีกรุงโบรคเกอร์ เราพร้อมให้บริการคุณ
- ประมาทร่วม
- อุบัติเหตุรถยนต์
- เคลมประกันรถ